my carendar

วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

ผู้ชายอันตรายที่ผู้หญิงควรจะระวังตัวมีชนิดใดบ้าง ?



ผู้ชายอันตราย ที่คุณผู้หญิงน่าจะพิจารณาให้ดีก่อนเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย มีหลายประเภทเช่น

1. ประเภท "สามีคนอื่น"

ผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว ถือเป็นอันตรายสูงสุดประเภทที่ 1 ที่ผู้หญิงโสดอย่าเผลอตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะชั้นเชิงของเขามีมากมาย ความจัดเจนในการมีครอบครัวแล้ว จะทำให้คุณหลงคารมเขาโดยง่าย

2. ประเภท "ลูกติดแม่"

ถ้าคุณไปเจอปะเภทนี้ ก็เรียกได้ว่า คุณตายทั้งเป็น เพราะคุณกำลังนำตัวเข้าไปแข่งกับแม่ของเขา (ซึ่งคุณไม่มีทางชนะเลย) ถ้าเป็นผู้หญิงอื่น นังนั่น นังนี่ ก็ยังจะพอฟัดพอเหวี่ยงกันไหว แต่เมื่อคุณอาจหาญลง ไปแข่งแรลลี่กับแม่ของเขารับรองคุณมีแต่ทางแพ้กับแพ้

ผู้ชายประเภท "ลูกติดแม่" ไม่เพียงแต่ถูกแม่ตามใจจนเสียเด็กเท่านั้น ในสายตาของแม่เขานั้น ยังมองไม่เห็นว่า จะมีผู้หญิงคนใดเลยที่ดีพอสำหรับลูกชายสุดที่รักของเธอ เธออาจจะทำตัวหวานเย็นกับคุณในระยะแรก แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็จะแสดงความเกลียดชังในเหล่าหญิงสาวทั้งหลาย ที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทำให้คุณเริ่มรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ว่าเธอจะพูดถึงคุณกับคนอื่นๆ ว่าอย่างไร และเมื่อเขาอยู่กับแม่ของเขา เขาก็จะกลายเป็นลูกแหง่ที่แม่จะต้องคอยประคบประหงม และแม่เขาก็จะพูดกรอกหูอยู่ตลอดเวลาว่า ไม่มีใครรักและสามารถปรนนิบัติเขาได้อย่างที่เธอทำให้เขา

3. ประเภท "ขุนแผน"

กลุ่มนี้คือ ผู้ชายเจ้าชู้ทุกประเภท เป็นผู้ชายที่ชอบยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงหลายคนในเวลาเดียวกัน เขาอาจจะมีครอบครัวแล้วหรือยังโสดอยู่ก็ได้ เขาจะไม่สนว่าคุณจะมีสามีหรือไม่ เขาสามารถหาเหตุผล ที่จะเข้ามายุ่งกับคุณได้ตลอดเวลา และเขาก็ไม่สนว่าภรรยาและลูกของเขาจะเจ็บปวด เพราะการกระทำของเขาเพียงใด


4. ประเภท "ยูงลำพอง"

พวกนี้จะเป็นผู้ชายแบบพงศกร ที่มักจะหล่อเหลา ท่าทางดูดีไปหมด ความหล่อของเขา ทำให้ดูจะหลงตัวเองมากไปหน่อย มองอะไรก็จะตื้นๆ แค่รูปลักษณ์ภายนอก ผู้ชายกลุ่มนี้มักจะแสวงหา ผู้หญิงสวยหรือรูปร่างหน้าตาเข้าทีมาควงคู่หรือแต่งงานด้วย เขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ดูแลร่างกายให้หล่อเหลา และ "เนี๊ยบ" อยู่ตลอดเวลา

5. ประเภท "เจ้าเหนือหัว"

พวกนี้ชอบสำคัญตนผิด คิดว่าตนคือผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ ชอบบังคับให้ผู้อื่นมาอยู่ใต้อำนาจของเขา ถ้าคุณไปรักคนประเภทนี้ คุณก็ต้องรับคำสั่งเขาอย่างเดียว เขาอาจจะเข้ามาวุ่นวายกับการคบเพื่อนของคุณ การใช้ชีวิตของคุณ ถ้าไปไหนด้วยกันเขาก็จะเล่นบทผู้ปกครองของคุณและออกคำสั่งกับคุณตลอดเวลา คุณต้องหันซ้ายขวาตามที่เขาต้องการ ถ้าอยู่ห่างจากกัน เขาก็จะต้องพยายามให้รู้ได้ว่า คุณกำลังทำอะไร อยู่ที่ไหนกับใคร แต่คุณจะต้องไม่หลงผิดคิดว่ามันคือ ความรัก ความห่วงใย เพราะแท้ที่จริงก็คือ เขาเป็นคนที่ชอบครอบงำผู้อื่น และต้องการใช้อำนาจของเขาบังคับให้คุณเป็นไปตามความต้องการของเขาเท่านั้น


6. ประเภท "นักกายกรรม"

ประเภทนี้ได้แก่ผู้ชายที่ชอบลงมือลงไม้กับผู้หญิง เห็นผู้หญิงเป็นสมบัติส่วนตัวที่อยู่ในปกครอง คิดจะบีบก็จะตายคลายก็รอด บางทีก็จะเอาภรรยาหรือลูกเป็นแพะรับบาป เมื่อเขาเครียดจากที่ใดก็ตาม เช่น มีเรื่องกับหัวหน้างาน หาทางออกไม่ได้ก็จะนำความหงุดหงิดมาลงกับบุคคลที่เป็น "เหยื่อใกล้มือ" เพราะภรรยาและลูกโต้ตอบไม่ได้

^^ พร่ำเพรื่อ ^^


คุณเคยรู้สึกถึงความพร่ำเพรื่อของตัวเองบ้างไหม????
ทว่า...เราจะไม่มีทางรู้สึกถึงมันได้เลย หากการกระทำของอีกฝ่ายไม่บ่งบอก...

--------------------------------------------------------

เช้า สาย บ่าย เย็น เวลาหมุนไปพร้อมกับความรู้สึก

ความรักของคนเรา เท่าที่สังเกตมา...
นานวันเข้า...ผู้ชาย จะแสดงออกถึงความรักน้อยลง
แต่นั่น..มิได้หมายความว่า "ความรักลดลง"
เพียงแค่จุดยืนของคำว่ารักของเค้าอยู่ที่ "การกระทำ"
มากกว่าการแสดงออกทางคำพูด

แต่ในทางตรงกันข้าม...
ผู้หญิง จะแสดงออกถึงความรักที่เพิ่มขึ้น ถึงต้องการให้อีกฝ่ายแสดงออกถึงสิ่งนั้นเพิ่มขึ้น
"ตาม ตาม กัน"

นั่นคือที่มาของคำว่า "พร่ำเพรื่อ"

------------------------------------------------------
พร่ำเพรื่อ
เธอมักพูดเสมอ ว่าฉัน "พร่ำเพรื่อ" เกินไป
ใช่...บ่อยครั้ง ที่ฉันขอคำว่ารัก จากปากเธอ

แต่เธอรู้ไหมว่า คำว่ารัก...คำเดิม
โทนเสียง...เดิม เดิม
มาจากปากของเธอ...คนเดิม
มันทำให้ชีวิตฉัน "แช่มชื่น" ขึ้น
สดใส...มีชีวิตชีวา
พร้อมจะเผชิญหน้ากับปัญหาที่กำลังรออยู่
เสมือนว่า...จะมีคนอีกคนที่จะคอยพยุงฉัน หากฉันล้มลง

ทำแผลให้...ยามฉันเจ็บ...

ฉันไม่กลัวอีกแล้ว หากวันนี้ ฉันได้ยินคำนั้นจากปากเธอ...

และฉันก้อจะไม่เสียใจ หากเธอจะว่าฉัน "พร่ำเพรื่อ"

"จงว่าฉันตลอดไป...หากเธอว่าฉันทีไร...เธอจะมอบคำนั้นให้...ทุกที"

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2553

ทางลัดสุขภาพน่าลอง

ทางลัดสุขภาพน่าลอง





1 ทางลัดทานผัก-ผลไม้

สูตรมาตรฐาน:

เราควรทานผักและผลไม้สดให้ได้ทุกมื้อในแต่ละวัน โดยเฉพาะในช่วงที่ท้องว่างหรือก่อนอาหาร และควรเป็นผักผลไม้ที่มี เส้นใยไฟเบอร์มากๆ และมีน้ำตาลไม่สูงเกินไป

ทางลัด ทางเลือก':

ถ้าการใช้ชีวิตในเมืองทำให้คุณทำจริงได้ยาก ลองพกวิตามินซีไว้ทานให้ได้วันละ 1,000 มก. หรือทานน้ำผลไม้ที่มีวิตามิน สูงๆ นอกจากนี้ ถั่วกระป๋องก็ไม่แย่จนเกินไปจอเพียงให้เราได้รับไฟเบอร์ที่เพียงพอ


2. ทานปลามีประโยชน์

สูตรมาตรฐาน:

ใครๆ ก็รู้ ว่าการทานปลามีประโยชน์มากมายขนาดไหน ยิ่งเป็นปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 อย่างปลาแซลมอน ปลาเทร้าท์ และปลาซาดีนด้วยแล้ว ก็ยิ่งต่อระบบสมองลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และยังเพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกายอีกด้วย

ทางลัด ทางเลือก':

ถ้าปลาเหล่านี้หาทานยากและยังราคาสูง ลองเปลี่ยนมาเป็นการน้ำมันปลาชนิดแคปซูล หรือน้ำมันเมล็ดลินิน (Flaxseed Oil) ในปริมาณ 1,000 มก. ต่อวัน เพื่อทดแทนและเติมคุณค่าทางอาหารให้มากขึ้น

3. ล้างมือฆ่าเชื้อ

สูตรมาตรฐาน:

แม้ไม่ต้องรอหวัด 2009 ระบาด การล้างมือระหว่างวัน โดยเฉพาะก่อนทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย จึงเป็นที่แนะนำว่า การล้างมือจะช่วยฆ่าเชื้อโรคให้น้อยลง ตราบใดที่มือเรายังจับใบหน้า ลำตัว สิ่งของ หรือแม้แต่เข้าห้องน้ำ และอาจเป็น สาเหตุของการเจ็บป่วยได้

ทางลัด ทางเลือก':

หากต้องเดินทาง หรืออยู่นอกบ้าน การใช้ผ้าเปียก หรือแอลกอฮอล์ 60 % แบบเจล ก็พอช่วยให้เรามั่นใจขึ้นได้ แม้จะไม่ สะอาดเท่าล้างน้ำที่สามารถล้างซอกเล็บได้ แต่ก็ดีกว่ามากกับการไม่ป้องกันเลย

4. มื้อเช้าสำคัญที่สุด

สูตรมาตรฐาน:

ทุกตำรายกให้อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุดของวัน (และไล่ความสำคัญลงไปตามช่วงเวลา) โดยการทานมื้อเช้าที่มี คุณภาพนั้น ก็ควรทานให้ครบทุกสารอาหาร โดยเฉพาะโปรตีน (ที่ย่อยยากกว่าด้วย) ที่ควรทานให้เพียงพอ และบำรุง สมองให้พร้อมไปทั้งวัน

ทางลัด ทางเลือก':

หลายคนข้ามมื้อเช้า แล้วไปทานมื้อเที่ยงทีเดียวซึ่งไม่ดีแน่ ทางที่ดีควรพกสูตรลัดอย่างการทานไข่, ซีเรียล และน้ำผลไม้ หรือทานซีเรียลอัดแท่งที่มีไฟเบอร์สูงๆ แล้วตามด้วยน้ำนมถั่วเหลืองอุ่นๆ สักแก้ว ทางออกแบบนี้ดีกว่ามาก หากเปรียบกับ การไม่ทานอะไรเสียเลย และยังเป็นการทำร้ายกระเพาะอาหารอีกด้วย


อาการของคนขาดวิตามินซี

อาการของคนขาดวิตามินซี






- อาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร มีเลือดออกตามไรฟัน โดยเฉพาะเวลาแปรงฟัน เป็นหวัดง่าย และเป็นบ่อยๆ หายแล้วก็เป็นอีก เพราะภูมิต้านทานต่ำ เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารอาหารในการเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย

- เมื่อปล่อยให้ขาดวิตามินซีไปนานๆ ก็จะแสดงอาการออกทางกล้ามเนื้อ ผิวหนัง และเส้นเลือด เช่น เจ็บกล้ามเนื้อ อ่อนแรง เส้นเลือดไม่แข็งแรง เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังแตกง่าย ผิวช้ำง่าย ปากแห้ง ผิวแห้ง

- ถ้าเป็นแผลจะหายช้า และอาจนำมาซึ่งปัญหาโรคข้อกระดูก โรคหลอดเลือด และโรคหัวใจ ในกรณีที่ขาดวิตามินซีเป็นเวลายาวนาน

รู้อย่างนี้แล้ว อย่าลืมดูแลตัวเองไม่ให้ขาดวิตามินซี เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง.

งานกะ ส่งผลต่อสุขภาพหญิง

งานกะ ส่งผลต่อสุขภาพหญิง




ผู้หญิงคนไหนที่ทำงานเป็นกะ ระวังสุขภาพไว้บ้างนะคะ

เรื่องนี้คุณผู้หญิงที่ทำงานเป็นกะและตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ ต้องใส่ใจเป็นพิเศษนะคะ เพราะนักวิจัยจากประเทศเดนมาร์กพบว่า การทำงานเป็นกะจะทำให้ผู้หญิงเราสุขภาพแย่ลง เมื่อเทียบกับผู้ชายที่ทำงานประเภทเดียวกัน

ดร.ฟิล ทัคเกอร์ ตัวแทนคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยสวอนซี เมืองโคเปนฮาเกน ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งศึกษาคนทำงานทั้งแบบประจำและเป็นกะ จำนวน 8,000 คน ได้ข้อสรุปว่า ผู้หญิงที่ทำงานเป็นกะจำนวนมากกว่า 1 ใน 3 มีปัญหาสุขภาพ จนทำให้ต้องเกษียณหรือลาออกจากงานก่อนกำหนด ทั้งยังมีการเบิกเงินประกันสงเคราะห์ ในการรักษาพยาบาลบ่อยกว่าผู้ชายด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคณะวิจัยยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงทำงานเป็นกะเจ็บป่วยบ่อย แต่เห็นว่าน่าจะเป็นเพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องทำงานบ้านเอง ขณะเดียวกันก็ต้องรับผิดชอบอาชีพการงานด้วย ทำให้ขาดการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอเครียด และฮอร์โมนในร่างกายไม่ปกติค่ะ


วิธีหว่านเสน่ห์ของหนุ่มวัยโจ๋


วิธีหว่านเสน่ห์ของหนุ่มวัยโจ๋

1. กลายเป็นคนปากหมาน...เอ้ย ปากหวานขึ้นมาทันที

เอ้า อย่าลืมสิว่าหนุ่มๆน่ะ เป็นนักแสดงชั้นเซียนเชียวนะ โห...เวลาเจอสาวที่เค้าหมายปองละก็ โอ้ย...พี่แกจากที่ปกติจะใช้คำพูดสมัยพ่อขุนคุยกับเพื่อนๆฝูงลิงด้วยกัน แต่พอเจอหญิงที่เค้าชอบเท่านั้นแหละ แม้ลิ้นจะรัวปากขนาดไหน เค้าก็สามารถปรับเปลี่ยนคำพูดมาใช้ภาษาที่สุภาพเรียบร้อยได้ละกัน

อ่ะเพราะตอนนั้นหนุ่มคนนี้กำลังอยากได้แต้มคะแนนพิศวาสจากสาวๆอยู่นี่หว่า ดังนั้น หากเค้ามีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับนางในดวงใจละก็ เค้าจะงัดแต่ประโยคคำพูดที่ไพเราะเสนาะหูมาใช้ป้อยอฝ่ายหญิงซะเลย ซึ่งผู้หญิงส่วนใหญ่ก็มักจะหลงละเมอไปกับคำชมและคำพูดที่สุภาพอ่อนโยนของเค้าซะด้วย

2. แต่งกายตามสมัยนิยม และอินเทรนด์ อย่าบอกใคร

ในเมื่ออยากจีบหญิงทั้งที ก็ต้องลงทุนกันหน่อย อย่างเสื้อผ้าหน้าผมเนี่ย อย่าคิดว่าหนุ่มๆไม่ให้ความสนใจกันนะฮ้า โอ้โหผู้ชายบางคนงี้ เวลาเลือกซื้อเสื้อผ้าที คุณพี่ใช้เวลาตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะเดินช็อปปิ้งเสร็จ เรียกว่าผู้หญิงบางคนงี้ยังใช้เวลาเดินเฉิดฉายในห้างสรรพสินค้าสู้พี่แกไม่ได้ก็ละกัน

หนุ่มบางรายยอมรับว่า เพื่อให้ได้ใจจากสาวที่ชอบ เค้ายอมควักกระเป๋าซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมทีละเป็นหมื่น หวังเนรมิตการแต่งกายของตัวเองซะใหม่ จากที่เคยสวมแต่เสื้อตัวกางเกงตัว อู้ยพอมีเป้าหมายจีบสาวขึ้นมาที เดี๋ยวนี้นะเรอะ ถ้าเสื้อผ้าชุดไหนไม่ทำให้เค้าดูดีมีราคาขึ้นมาละก็ จะโละทิ้งทันที อ่ะไม่รู้จักเสี่ยทุ่มทุนซะแล้ว แหมเวลาอ่อยเหยื่อให้สาวมารัก ก็ต้องสร้างภาพให้ตัวเค้ามีระดับกันมั่งดิ่

3. ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ซีเรียสเคร่งเครียดหรอกเฟ้ย

เพราะ 1 ในบรรดาเงื่อนไขที่สาวๆเปิดใจยอมรับว่าจะชอบผู้ชายสักคน มักหนีไม่พ้นความรู้สึกประทับใจยามแรกพบที่ว่า หนุ่มคนนั้นเป็นคนอารมณ์ดี, ยิ้มง่าย และเป็นกันเองกับเพื่อนฝูงน่ะซี ผู้ชายถึงรู้ว่า เค้าควรทำอย่างไรจึงจะชนะใจน้องนางคนที่เค้าชอบให้ได้ยังไงล่ะ

ซึ่งการทำตัวให้เป็นคนอารมณ์ดี รู้จักหัวเราะเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนฝูงก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะผู้ชายส่วนใหญ่เห็นบ้างานอย่างงี้เถอะ แต่ในใจน่ะชอบสรวลเสเฮฮากับใครต่อใครจะตายไป

ดังนั้น จึงไม่ต้องตกใจ หากสาวใดเผอิ้ญเห็นหนุ่มคนนึงส่งยิ้มมาให้ นี่ก็เท่ากับเป็นสัญญาณน่ะสิว่า คุณกำลังเป็นที่หมายปองของหนุ่มบางคนเข้าให้แล้ว ฮันแน่...ขอแสดงความยินดีด้วยนะ

4. อาศัยน้ำหอมดึงดูดความสนใจ

หนุ่มที่กำลังมีความรัก นอกจากจะเอาใจใส่ในเรื่องการแต่งกายให้ดูสุภาพเรียบร้อยกว่าเดิมแล้ว เค้ายังนิยมใส่น้ำหอมเพื่อให้กลิ่นกายสะอาดเอี่ยมชวนดมและให้ความรู้สึกสดชื่นซะด้วยสิ แหมก่อนหน้าที่ยังไม่อยากมีแฟนน่ะเรอะ หนุ่มๆส่วนใหญ่ไม่ ค่อยใส่ใจที่จะซื้อหาน้ำหอมมาใช้กันร้อก เพราะสำหรับพวกเค้า ดูเหมือนน้ำหอมจะเป็นของฟุ่มเฟือยซะมากกว่า ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็นจริงๆก็คงไม่หยิบฉวยน้ำหอมมาใช้ให้เสียเวลาหรอก สู้เอาตังค์ไปซื้อคอมพิวเตอร์มาเล่นเกมไม่ดีกว่ารึ? แต่เออแฮะ หลังจากมีความรัก ผู้ชายกลับยอมใช้น้ำหอมเพื่อหวังเรียกร้องความสนใจจากเพศตรงข้ามอย่างไม่น่าเชื่อ

เอ้าคิดดูนะ ถ้าลงทุนซื้อน้ำหอมมาใช้แล้วจีบสาวติดจนเป็นแฟนกัน อู้ยมันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มซะอีก ว่าแต่หลังจากมีแฟนแล้ว หนุ่มๆยังจะดูแลตัวเองให้น่าพิสมัยเหมือนเดิมรึเปล่าน้า?

5. กลายเป็นคนขี้เล่น แต่ไม่ทิ้งมาดของหนุ่มที่สุขุมและลุ่มลึก

ตำราพิชิตใจสาว กล่าวเอาไว้ว่า ถ้าอยากชนะใจเธอให้ได้ต้องสามารถเล่าเรื่องตลกโปกฮาให้หญิงที่เค้าหมายปองหัวเราะเริงร่าออกมาด้วย เพราะไม่ว่าหญิงหรือชายล้วนแต่ชอบอยู่ใกล้คนที่ทำให้พวกเค้าสบายใจได้น่ะซี ซึ่งหากเป็นชายไปจีบหญิง หนุ่มๆก็มักจะวางมาดของการเป็นชายที่เข้าอกเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของฝ่ายหญิงเข้าไปด้วย โดยเฉพาะการพูดการจาที่ดูเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เนี่ย ทำให้สาวๆปั่นป่วนหัวใจมานักต่อนักแล้ว อ่ะก็ผู้ชายที่รับฟังผู้หญิงน่ะ มีใครไม่ชอบบ้างล่ะ อุ้ยมีแต่จะถูกรุมตอมสิไม่ว่า

6. ใจปํ้าขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ

เวลาที่หนุ่มจีบหญิง รายไหนรายนั้นจะมีบุคคลิกเป็นคนใจดีขึ้นมาเชียว โดยเฉพาะเวลาชวนสาวไปเที่ยวไหนต่อไหนด้วยกัน ถ้ายิ่งเป็นตอนช่วงที่เพิ่งจีบกัน โอ้โห เค้าจะเสนอตัวเป็นคนจ่ายทุกอย่าง ไม่ว่าจะค่าอาหาร, ค่าเดินทาง รวมทั้งค่าเอ็นเตอร์เทนต่างๆซะคนเดียว โดยไม่ให้ฝ่ายหญิงต้องเดือดร้อนกับค่าใช้จ่ายต่างๆเหล่านี้ แค่ขอให้เธอยอมมากับเค้าเถอะ ต่อให้ต้องจ่ายเท่าไหร่ พี่ก็ยอมทุ่มสุดฤทธิ์ แหมของแค่นี้ถือว่าเค้าเป็นฝ่ายชวนก็ต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ฮ่าฮ่าฮ่า

7. พยายามเอาชนะใจเพื่อนของฝ่ายหญิงให้ได้

นอกจากขยันหว่านเสน่ห์เพื่อให้สาวคนที่เค้าชอบให้มารักเค้าแล้ว หนุ่มโจ๋รายนั้นจะทำทุกอย่างเพื่อให้เพื่อนๆของฝ่ายหญิงหันมาสนใจและชอบเค้าด้วยอีกทาง ที่ต้องทำถึงเพียงนี้ เพราะเค้าอยากให้เพื่อนๆพูดจาสนับสนุนให้เธอเห็นว่า เค้าคู่ควรกับเธอมากกว่าชายใดน่ะซี ส่วนวิธีที่จะเอาใจเพื่อนของสาวๆก็ไม่ยาก เช่น หาซื้อของกินอร่อยๆมาฝากเพื่อนของหล่อนบ่อยๆ หรือชวนพวกเธอไปเที่ยวด้วยกัน อ้อแล้วอย่าลืมหอบของขวัญมาแจกด้วยล่ะ









10 Style ที่ผู้ชายร้องยี้ๆๆๆๆๆๆๆ



10 Style ที่ผู้ชายร้องยี้ๆๆๆๆๆๆๆ


1.ตามแฟชั่นจนไม่เป็นตัวของตัวเอง

การที่พอจะรู้เรื่องแฟชั่นบ้างก็เป็นเรื่องที่น่ายกย่องดี แต่ถ้าเห็นเขาทำอะไรก็ตามจนท้ายที่สุดจบด้วยการเป็นเลดี้กาก้า รับรองได้ว่าชายที่คุณน้องหมายตาจะผมร่วงกราว



2.ดูเหมือนคนติดยา

ก็เข้าใจว่าอยากเซอร์ อยากซูเปอร์โมเดล อยากมิลาน อยากชิค แต่ถ้าคุณน้องพ่นควันปุ๋ยๆเยี่ยงคนในวงการ อันนี้ก็จะไม่งามนะจ้ะ แถมไม่พออาจทำให้สุขภาพเสียป่วยเปลี้ยอัปลักษณ์อีกด้วย



3.ทำผิวแทนปลอมๆ

สาวไทยที่รู้ว่าไม่สามารถทำตัวให้เกี่ยวเนื่องไปกับกระแสเกาหลีได้ ก็อาจตัดช่องน้อยแต่พอตัวด้วยการอาบแดดไปด้วย หาสามีฝรั่งไปด้วย ก็ต้องขอชมเชยในการอยากนำเงินเข้าประเทศ แต่ไม่ได้แปลว่าผู้คนเขาจะชอบผิวบ่มแดดด้วยโลชั่นปลอมๆนะจ๊ะ พยายามสวยด้วยชาติกำเนิดตัวเองจะดูเจริญกว่า



4.รอยสัก

การเป็นสาวเท่ห์มีรอยสักคูลๆก็โอสำหรับชายแนวเดียวกัน แต่ถ้าอยากเปิดตลาดให้กว้างกว่านี้ การสักเจาะหลากรูจะทำให้ชายบ้านๆขวัญผวาได้ คิดดูดีๆก่อนตัดสินใจนะ



5.ลายเสือดาว

ลึกๆแล้วผู้ชายก็อยากได้แฟนที่ดูเรียบร้อยหงุมหงิม ถึงปากจะบอกว่ารักในความเป็นตัวเอง แต่ท้ายที่สุดแล้วผู้ชายก็ยังกดกะปิเพศหญิงดั่งเทียนไขที่ฉาบกลิ่นอายเคย เค็ม ลายสิงห์สาราสัตว์อาจจะดูเก๋ในวงการแฟชั่น แต่ในเรื่องความเป็นแม่ของลูก ต้องกดกะปิตัวเองไว้ให้มั่นอย่าให้ชายจับได้เชียว



6.ไม่ยอมโกนขนให้เรียบร้อย

ถึงแม้ว่าจะป่วยหนักหรือขี้เกียจขนาดไหน แต่ผู้ชายก็หวังที่จะเห็นเราในสภาพร่างที่งดงามที่สุด เพราะฉะนั้นก็อย่ากลายร่างเป็นชะนีมีขนให้เขาตกใจ ผู้ชายไม่ได้เป็นทาร์ซานทุกคนนะจ๊ะ



7.ไว้ผมสั้นมากๆ

ผมสั้นอาจดูดีสำหรับคนบางคนอย่างเช่นวิคตอเรีย เบคแฮม หรือว่าก้อย รัชวิน แต่ถ้ารู้ว่าร่างที่สิงกับจิตวิญญาณที่อยากซอยสั้นไม่ได้ไปด้วยกัน อาจจบท้ายด้วยการเป็นเลสเบียนขับสิบล้อ ฟังดูไม่เซ็กซี่ใช่ไหมล่ะ ผู้ชายก็คิดแบบนั้นแหละ



8.บิ๊กอายส์

ก็อยากตาโต ก็อยากขนตายาว ก็อยากสวย แต่ขอบอกว่าบรรทัดฐานในความงามของผู้ชายกับผู้หญิงไม่เท่ากัน อย่าคิดว่าความงามแบบคอสเพลย์จะมีชายที่ไหนเข้าใจ เก็บบิกอายส์ไว้ใส่กรี๊ดๆกับเพื่อนสาวดีกว่า



9.ลิปสติกสีแดง

ปัจจัยในการจะดูแย่กับลิปสติกสีแดงมีอยู่สามข้อ หนึ่งดูเหมือนโสเภณีถ้าแต่งไม่เป็น สองลิปสติกชอบไปเลอะฟันหน้าโดยที่ไม่รู้ตัว สามผู้ชายไม่กล้าจูบเพราะกลัวว่าจะกลายเป็นละเลงหน้าเค้กใส่กัน.. จบข่าว



10.ชุดโป๊ๆ

อันนี้ไม่ต้องอธิบายมาก แน่นอนว่าผู้ชายชอบ แต่ว่าไม่มีผู้ชายที่ไหนอยากให้แฟนตัวเองแต่งตัวโป๊ๆ (ก็เพราะรู้ว่าผู้ชายอื่นก็ชอบไง) แต่งสวยได้แต่ห้ามเซ็กส์จ้ะ





วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องดีๆ ไม่จำเป็นต้องยาว




...^ Mother ^....



เรื่องดีดี ไม่จำเป็นต้องยาว ... แม่ผู้แก่เฒ่าเดินไม่ได้คนหนึ่ง เป็นที่รำคาญใจของลูกชายเหลือเกิน


สมัยนั้นยังไม่มีสถานสงเคราะห์คนชรา จึงไม่รู้ว่าจะเอาแม่ไปฝากใครให้เลี้ยงแทน ชายหนุ่มจึงตัดสินใจแบกเอาไป


ปล่อยป่าให้อยู่ตามยถากรรม ... ระหว่างทาง แม่ไม่วอนขอ ไม่ถามไม่ว่าอะไร ตั้งใจหักกิ่งไม้ตามทาง


เรื่อยไป เข้าป่าลึก ไกลมากแล้ว ลูกชายวางแม่ลงบนโขดหิน แล้วหันหลังเดินกลับทางเดิมไป ...


ตอนนี้เอง ที่แม่ตะโกนตามหลังลูกชายไปว่า ...



"ลูกเอ๋ย เดินตามรอยกิ่งไม้ที่แม่หักไว้ให้นะจะได้ไม่หลงทาง"






^_^ ^_^









ยามที่แม่สั่งสอนพร่ำวอนลูก....เรื่องผิดถูกลูกก็ว่าแม่จู้จี้






ต่อเมื่อลูกเติบใหญ่จึงได้ดี......เพราะคำที่แม่พูดไว้ไม่






ผิดคำเมื่อยังเด็กลูกไม่เห็นคุณค่าแม่....เป็นบาปแท้ที่ลูกเถียงแม่เช้าค่ำ






ลูกกระทำความผิดนี้ประจำ.....ขอกล่าวคำขอโทษโปรดอภัย















การป้องกันภัยจากอินเตอร์เน็ต


การป้องกันภัยทางอินเทอร์เน็ต
การป้องกันภัยที่เกิดกับบุคคล

1. ไม่ควรสนทนา (Chart) กับบุคคลอื่นที่ไม่รู้จัก หรือไว้ใจได้

2. ไม่ควรใส่ชื่อที่อยู่จริงกับเว็บที่ไม่น่าไว้ใจ

3. ระลึกอยู่เสมอว่า บุคคลที่เรารู้จักทางเว็บอาจจะเป็นบุคคลที่ไม่พึงประสงค์

4. ระวังตัวทุกครั้งที่มีการลงทะเบียนกับเว็บต่างๆ เพราะท่านอาจกำลังตกอยู่ในสายตาของผู้ไม่ประสงค์ดี ที่กำลังจับตามองท่านอยู่

5. จงคิดไว้เสมอว่า ไม่มีใครยอมเสียผลประโยชน์ ถ้าไม่ได้อะไรตอบแทน

6. ทุกครั้งที่คนมาชวนสร้างรายได้ โดยทำ ธุระกรรมผ่านทางเว็บจงคิดเสมอว่า รายได้ที่สูงเกินความจริงอาจตกอยู่กลลวงของผู้ประสงค์ร้าย

7. การไปพบปะกับบุคคลที่ติดต่อผ่านทางเว็บไม่ควรไปอยู่ในที่ลับตา ควรอยู่ในที่รโหฐาน

8. ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้ลูกเข้าเว็บที่ต้องห้าม หรือเว็บที่มีการนำเสนอภาพรุนแรง

9. การตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับลูกควรอยู่ในสายตาของผู้ปกครอง เช่นห้องรับแขก ห้องพักผ่อน

10. เมื่อเห็นบุคคลที่อยู่ไกล้ตัวท่านมีลักษณะการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไปควรรีบเสาะหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อป้องกับเหตุร้ายที่จะตามมา


การป้องกันภัยที่เกิดกับเครื่องคอมพิวเตอร์


1. ทุกครั้งที่นำซอฟแวร์ที่ไม่ทราบแหล่งที่ผลิต หรือได้รับแจกฟรี ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนนำไปใช้ ว่ามีไวรัสหรือไม่ โดยใช้โปรแกรมประเภท สแกนไว้รัส


2. ควรตรวจสอบทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง

3. เตรียมแผ่นที่สะอาดไว้สำหรับบูตเครื่องเมื่อคราวจำเป็น

4. ควรสำรองข้อมูลไว้เพื่อเกิดความเสียหายจะได้มีไฟล์สำรองทุกครั้ง

5. พยายามสังเกตุสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เช่น การทำงานที่ช้าลง ขนาดไฟล์ หน้าจอแสดงผลแปลก ๆ ไดรฟ์มีเสียงผิดปกติ

6. ไม่นำแผ่นดิสก์ไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ถ้ายังไม่ได้ปิดแถบป้องกันการบันทึก (Write Protect) หรือถ้าจำเป็นต้องเปิด ควรมีการ สแกนไว้รัสก่อนใช้งานทุกครั้ง

7. ควรแยกแผ่นโปรแกรม และแผ่นข้อมูลออกจากกันโดยเด็ดขาด

8. ไม่อนุญาตให้คนอื่นมาเล่นเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน โดยปราศจากการควบคุมอย่างใกล้ชิด

9. ควรมีโปรแกรมป้องกันไวรัสไว้ใช้ตรวจสอบและป้องกัน โดยเฉพาะโปรแกรมป้องกันไวรัสรุ่นใหม่ ๆ จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ดีขึ้นมาก

10. เมื่อมีการติดตั้ง โปรแกรม ป้องกันไวรัสแล้วมิได้จบเพียงแคนั้น ควรจะมีการ Update ไวรัสบ่อยๆ เพราะทุกๆ วันจะมีการสร้างไวรัสใหม่เสมอ

11. หมั่นติดตามข่าวด้าน Information Security และข่าวไวรัสใหม่ๆ ตลอดจนหมั่น Update Patch ให้กับระบบที่เราใช้งานอยู่เป็นประจำ

12. หลีกเลี่ยงการเปิดอ่านอี-เมล์และไฟล์ที่แนบมากับอี-เมล์ ถ้าไม่รู้แหล่งที่มาของ อี-เมล์

ภัยจากอินเตอร์เน็ต


ภัยทางอินเทอร์เน็ต




สามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ




1. ภัยที่เกิดกับบุคคล

2. ภัยที่เกิดกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ


ภัยที่เกิดกับบุคคล
ภัยที่เกิดกับบุคคลมักเกิดจากการหลอกลวง การกลั่นแกล้ง โดยผลที่ได้รับอาจจะทำให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายเกิดความอาย เสียเงิน จนถึงขั้นเสียชีวิต ดั้งนั้นควรระมัดระวังในการใช้งาน ตัวอย่างภัยที่เกิดกับบุคคล


1. การกลั่นแกล้งโดยผ่านทาง Webboard เช่น นาย ก. มีความเกลียดชังนาย ข. จึงไปเขียนลงบน Webboard โดยกล่าวร้ายกับนาย ข. จึงทำให้นาย ข. เกิดความอับอาย


2. การหลอกลวงผ่านทางโฆษณาขายสินค้าด้วยวิธีการประมูล โดยผู้ที่จะเข้าร่วมประมูลต้องลงทะเบียนสมาชิกของเว็บไซต์ หลังจากนั้นผู้ซื้อจะต้องเสนอราคาซื้อแข่งขันกับผู้ซื้อรายอื่น เมื่อเสร็จสิ้นการประมูลถือว่ามีการทำสัญญาซื้อขายระหว่างผู้ประมูลและผู้เสนอขาย ในรายงานพบว่าเป็นการหลอกลวงมีหลายรูปแบบ เช่น ผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้าเพราะไม่มีสินค้าอยู่จริง การปั่นราคาสินค้าสูงกว่าปกติ


3.การชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิต มีทั้งฝ่ายผู้ซื้อหลอกลวงผู้ขาย และผู้ขายหลอกลวงผู้ซื้อ เช่น ผู้ซื้อสั่งซื้อสินค้าเมื่อมีการตัดบัตรเครดิต หรือการหลอกขายสินค้าแล้วขอเบอร์บัตรเครดิต และรหัสแล้วนำไปทำบัตรปลอมเพื่อซื้อสินค้าอีกต่อ


4. การล่อลวงไปกระทำมิดีมิร้ายกับผู้หญิง เช่นล่วงละเมิดทางเพศ ดังที่ปรากฏทางหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ ส่วนมากจะมาในรูปแบบของการใช้งานโปรแกรม Chartroom ต่างๆ


5. เด็กที่เข้าเว็บที่มีการเสนอในทางรุ่นแรงอาจทำให้เด็กมีนิสัยชอบความรุนแรงมากยิ่งขึ้น


ตัวอย่างภัยที่เกิดกับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ


1. การปล่อยโปรแกรม Virus มาทางอินเทอร์เน็ต ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับ Virus จะเกิดอาการใช้งานไม่ปกติ หรือบางอย่างอาจจะลบข้อมูลทั้งหมด ไวรัสคอมพิวเตอร์ คือ โปรแกรมที่มีผู้เขียน เขียนขึ้นมาเพื่อขัดขวางการทำงานของคอมพิวเตอร์ ทำให้เสมือนว่าใช้งานกับคอมพิวเตอร์ไม่ได้ จนกระทั่งทำลายแฟ้มข้อมูล หรือทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติไปจากเดิม ส่วนการติดไวรัสอาจเกิดจากการนำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้อีกเครื่องหนึ่ง หรืออาจผ่านระบบเครือข่ายหรือระบบสื่อสารข้อมูล โดยเฉพาะทาง Internet นั่นแหละแหล่งรวมไวรัส


2. ใช้วิธีการเข้าควบคุมโมเ ด็มของบุคคลอื่น เมื่อมีเครื่องคอมพิวเตอร์ติดไวรัส หลังจากที่เราเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้วไวรัสกำหนดคำสั่งให้ต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ตใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้จะเป็นการเชื่อมโยงไปยังคู่สายที่อยู่เมืองนอก ดังนั้นการเสียค่าโทรศัพท์จะต้องเสียในอัตราโทรต่างประเทศ


3. Trojan Horse เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้ทำตัวเหมือนว่าเป็นโปรแกรมทั่วไป เพื่อหลอกผู้ใช้ให้ทำการเรียกใช้งาน เมื่อถูกเรียกขึ้นมาแล้ว ก็จะเริ่มทำลายตามที่โปรแกรมได้กำหนดไว้ทันที
จุดประสงค์ของคนเขียนม้าโทรจัน เพื่อที่จะล้วงความลับของระบบคอมพิวเตอร์บุคคลอื่น ม้าโทรจันนี้อาจจะถือว่าไม่ใช่ไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาโดด ๆ และจะไม่มีการเข้าไปติดในโปรแกรมอื่นเพื่อสำเนาตัวเอง แต่จะใช้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้เป็นตัวแพร่ระบาดซอฟต์แวร์ที่มี ม้าโทรจันอยู่ในนั้น

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553



บล็อก คืออะไร

บล็อกเป็นไดอารีส่วนบุคคล ห้องฟังเทศน์ พื้นที่สำหรับความร่วมมือ เวทีแสดงออกทางการเมือง ห้องกระจายข่าว การเก็บรวบรวมลิงก์ ความคิดส่วนตัวของคุณ บันทึกสำหรับคนทั่วโลก บล็อกของคุณจะเป็นอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ เรามีบล็อกนับล้าน ทุกรูปแบบและทุกขนาด และไม่มีกฎตายตัว กล่าวง่ายๆ บล็อกก็คือเว็บไซต์ ซึ่งคุณสามารถเขียนเรื่องต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เรื่องใหม่จะปรากฏด้านบนสุด เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมสามารถอ่านสิ่งที่มาใหม่ จากนั้นจะสามารถแสดงความคิดเห็นหรือสร้างลิงก์ หรือส่งอีเมลถึงคุณ หรือไม่ทำอะไรเลย นับตั้งแต่ Blogger เปิดตัวในปี ค.ศ. 1999 บล็อกก็ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของเว็บ สร้างผลกระทบต่อการเมือง เขย่าวงการสื่อสารมวลชน และทำให้คนนับล้านได้แสดงออกและติดต่อกับบุคคลอื่น และเรามั่นใจว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

สร้างเว็บบล็อก



สร้างเว็บบล็อก(Blogger)

1.เข้าไปที่ http://www.blogger.com/จะแสดงหน้าจอแบบนี้ ให้คลิกที่ สร้างเว็บบล๊อกของท่านเดี๋ยวนี้

2.เมื่อท่านคลิกนี้ จะปรากฎเป็นรูปเว็บบล็อก

3. ให้ใส่รายละเอียด-ที่อยู่อีเมล : (จากที่ท่านได้สมัคร Gmail มาแล้วก่อนหน้านี้)-Enter Password : (ใส่รหัสผ่าน)-พิมพ์รหัสผ่านอีกครั้ง-Displya name (ตั้งชื่อที่จะให้แสดงตอนโพสเว็บบล็อก)-พิมพ์ตามอักษรที่ปรากฎให้ถูกต้อง-คลิกดำเนินต่อไป

4.จากนั้นให้ตั้งชื่อ เว็บบล็อกของท่าน-คลิกที่ตรวจสอบ เพื่อตรวจเช็คดูว่า มีใครใช้ชื่อนี้ไปหรือยัง ถ้ามีแล้วระบบจะแจ้งเตือนว่าใช้ไม่ได้ และจะมีตัวเลือกให้เราโดยอัตโนมัต ถ้าชอบใจตัวไหน ก็คลิกที่ชื่อด้านล่างตัวนั้นได้ แต่ถ้าต้องการชื่ออื่นอีกก็ตรวจสอบจนกว่าจะได้ชื่อที่คุณพอใจ เมื่อได้ชื่อตามที่ต้องการแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไป

5.จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกแม่แบบว่า เราต้องการเว็บบล็อกรูปแบบไหน มีให้เลือกมากมายตามต้องการสามารถคลิกเพื่อดูตัวอย่างแม่แบบได้ เมื่อได้แม่แบบตามที่เราชอบแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไปต่อไปกดเริ่มต้นการส่งบทความทำความเข้าใจก่อนนะครับว่า Google AdSense ยังไม่รองรับเว็บไซต์ภาษาไทย แต่ในอนาคตคาดว่า ทาง Google AdSense จะยอมรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เป็นภาษาไทย ดังนั้น ควรนำเว็บบล็อกที่มีเนื้อหาภาษาอังกฤษมาทำการสมัครให้ผ่านก่อน โดยไปหาเนื้อหาภาษาอังกฤษ ได้ที่นี่ โดยคุณควรจะเลือกทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งhttp://en.wikipedia.org/wiki/Main_pagehttp://www.goarticles.com/http://www.contentmart.com/http://www.superfeature.com/http://www.freshcontent.net/

ถึงตอนนี้คุณก็จะมีบล็อกส่วนด้วยไว้ทำเงินกับกูเกิลอย่าลืมจดจำคือ
1.อีเมลล์ของ gmail
2.URL เว็บบล็อก เช่น
http://makemoneynetonline.blogspot.com/